Terlux® (MABS) ใช้กับกระบวนการผลิตแบบฉีดขึ้นรูปตามแม่พิมพ์เป็นหลัก  แต่ก็อาจสามารถใช้ได้กับกระบวนการ อื่นๆ ที่มีความเหมาะสมกับ เทอร์โมพลาสติกได้เช่นเดียวกัน

การไล่ความชื้น

เม็ดผลิตภัณฑ์ Terlux สามารถดูดซับความชื้นได้เล็กน้อย ในระหว่างการจัดเก็บหรือการขนส่ง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อผิวของชิ้นงานในขั้นตอนการผลิตได้  โดยอาจเกิดเป็นรอย ริ้ว เส้น หรือฟองอากาศ ดังนี้ เราจึงขอแนะนำให้มีการ อบแห้งไล่ความชื้น ก่อนเข้ากระบวนการผลิตเป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ที่อุณหภูมิประมาณ 70 °C

การใช้งานร่วมกับเทอร์โมพลาสติกชนิดอื่นๆ

Terlux ไม่ควรถูกนำใช้งานร่วมกับ เทอร์โมพลาสติก ชนิดอื่นๆ ซึ่งรวมไปถึงเม็ดชนิดใส แม้แต่ในปริมาณเพียงเล็กน้อย ก็อาจทำให้เกิดความขุ่นมัวบนชิ้นงานซึ่งไม่สามารถแก้กลับดังเดิมได้

การนำไปขึ้นรูปใหม่

Terlux สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ โดยการบด หากผ่านกระบวนการตามที่ได้ระบุไว้ และไม่มีการปนปื้อน หรือ การดีเกรดโดยใช้ความร้อน และเนื่องจากพลาสติกที่ผ่านการบดนั้น มีพื้นผิวที่ใหญ่กว่ามากกว่าแบบเม็ดทำให้สามารถดูดซับความชื้นได้เร็วกว่า จึงต้องมีการอบแห้งก่อนจะนำมาใช้ใหม่ ทั้งนี้ ควรใช้เม็ดบริสุทธ์กับงานที่ต้องการคุณภาพในระดับสูง

Terlux MABS สามารถใช้ได้กับ เครื่องฉีดขึ้นรูปทุกเครื่องที่มีจำหน่ายในท้องตลาด

หน่วยการฉีด

ยูนิเวอร์แซลสกรูจะเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด ค่าแนะนำที่ผ่านการพิสูจน์ด้านการออกแบบสกรูแล้ว มีรายละเอียดดังนี้ :

เมื่อ D=ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของสกรู; L=ความยาวรวม.

การออกแบบแม่พิมพ์และช่องทางไหลเข้า

โดยทั่วไป สามารถใช้ช่องทางไฟลเข้าได้ทุกประเภท  แม่พิมพ์ที่มีระบบ รูวิ่งแบบร้อน ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน โดยข้อแนะนำการออกแบบสำหรับการทำแม่พิมพ์ มีระบุไว้ใน VDE 2006

การควบคุมอุณหภูมิของแม่พิมพ์

การหดตัว และคุณสมบัติเชิงกลและความร้อนของชิ้นงาน สามารถถูกกระทบโดยความร้อนของแม่พิมพ์ ยิ่งแม่พิมพ์มีอุณหภูมิสูงก็จะยิ่งให้แนวเชื่อมที่มีความแข็งแรง และความตึงภายในที่ต่ำลง และเป็นผลให้ช่วยในการลดการบิดหรือหมุนที่เปลี่ยนสภาพจากเดิมได้ด้วย  อุณหภูมิของแม่พิมพ์ที่ทดสอบแล้วจากการลองใช้งานจริงนั้นอยู่ที่ระหว่าง 50 ถึง 75°C

อุณหภูมิในการขึ้นรูป

อุณหภูมิหลอมเหลวที่อยู่ระหว่าง 230-260°C จะช่วยให้ได้ความใสที่สูงสุด อุณหภูมิหลอมเหลว และระยะเวลาที่ใช้ ที่มากเกินไปอาจก่อให้เกิดสีเหลืองเล็กน้อย ความใสที่มากสุดของชิ้นงานจะเกิดขึ้นได้เมื่อ ผิวของแม่พิมพ์ มีการขัดอย่างดี

ลักษณะการไหลเวียน

รูปที่.6 แสดง ลักษณะการไหลเวียนของ Terlux 2802 TR และ 2812 TR  โดยที่อุณหภูมิหลอมเหลวและแรงดันในการฉีดเป็นตาม การทดสอบการไหลแบบสไปรอล  การทดสอบดังกล่าว โดยปกติให้ผลใกล้เคียงกับการใช้งานจริงของม็ดพลาสติกที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน

การถอดแม่พิมพ์

ชิ้นงานที่ทำขึ้นจาก Terlux โดยกระบวนการ ฉีดขึ้นรูปโดยแบบแม่พิมพ์นั้นง่ายต่อการถอดออกจากแบบ โดย องศา ดราฟท์อยู่ ที่ 0.5 ถึง 1° ก็เพียงพอ   สำหรับพื้นผิวที่มีหลายระดับ องศาดราฟท์จะขึ้นอยู่กับความลึกของระดับของพื้นผิว โดยควรเพิ่มขึ้นจากค่าที่ได้แสดงไว้ข้างต้น

การหดตัว

การหดตัวของชิ้นงาน โดยปกติอยู่ที่ประมาณ 0.4 ถึง 0.7%  โดยการหดตัวในภายหลัง (post-shrinkage) มีค่าต่ำมาก ทั้งนี้ การหดตัวขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้  การออกแบบชิ้นงาน และกระบวนการขึ้นรูปด้วย

ข้อพึงระวังด้านความปลอดภัย ในระหว่างการใช้งาน

ยังไม่มีรายงานถึงอันตรายต่อสุขภาพของผู้ใช้งาน ในการใช้งานตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง ภายใต้การระบายอากาศที่เหมาะสมในพื้นที่การผลิต ทั้งนี้ความเข้มข้นของสารในบรรยากาศต้องไม่เกินค่าสูงสุดที่สามารถยอมรับได้ (MAC) โดยในเยอรมันค่าสำหรับสไตรีน อยู่ที่ 20 ml/m³ , เมทิล-เมทาไครเลต อยู่ที่ 50 ml/m³ , เมทิลอะคริเลต อยู่ที่ 5 ml/m³, อะคริโลไนไตร์ล และ 1,3-บิวทาไดอีน อยู่ที่ 3 ml/m³ และ 5 ml/m³ ตามลำดับ. อะคริโลไนไตร์ล และ 1, ,3-บิวทาไดอีน จัดอยู่ในสารก่อมะเร็งหมวด C 2 จากการทดลองในสัตว์

จากประสบการณ์ใช้งาน เมื่อ Terlux ถูกนำไปใช้งานอย่างถูกต้อง ภายใต้การระบายอากาศที่เหมาะสม ระดับของสารในบรรยากาศมีค่าต่ำกว่าค่าสูงสุดที่ยอมรับได้ตามที่แสดงไว้อยู่มาก โดยสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก เอกสารข้อมูลความปลอดภัยจอง Terlux 2802 TR และ 2812 TR

การกำจัดทิ้ง

ภายใต้ข้อบังคับของประเทศเยอรมัน  MABS จัดเป็นขยะประเภท ขยะโพลีสไตรีน  โดยขยะพลาสติกแข็งในประเภทนี้  ได้รับการยกเว้นจากการตรวจสอบซึ่งต่างจากขยะประเภทอื่น โดยปกติจึงสามารถใช้วิธีกลบฝังได้ (อ้างถึงเอกสารข้อมูลความปลอดภัยจอง Terlux)   ของเสียจาก terlux ไม่มีการเกิดปฏิกริยาในการฝังกลบ โดยในประเทศเยอรมัน Terlux ถูกจำแนกเป็น water hazard class 0 โดยต้องมีการควบคุมตามข้อบังคับ โดย Terlux ยังสามารถนำไปทำลายด้วยวิธีเผา ด้วยเตาเผาที่เหมาะสม ค่าความร้อนที่ได้ อยู่ที่ประมาณ 10kWh/kg ซึ่งมากกว่าค่าที่ได้จากไม้อยู่ประมาณ 70% โดยการเผาไหม้สมบูรณ์จะได้ คาร์บอนไดออกไซด์ น้ำ และไนโตรเจน ซึ่งทำปฏิกริยาออกซิไดเซชั่นได้เป็น ไนโตรเจนออกไซด์

การนำกลับมาใช้

ของเสียที่เกิดขึ้นไม่ว่าจากการหลอมหรือเป็นชิ้นงานที่ใช้แล้ว ซึ่งมีส่วนประกอบเป็น terlux เพียงอย่างเดียวสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น นำกลับมาผ่านกระบวนการผลิตในลักษณะการโม่,บด (การขึ้นรูปใหม่, ตามที่แสดงไว้ด้านบน) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพ และอายุการใช้งานของชิ้นส่วนที่จะนำกลับมารีไซเคิล  คุณลักษณะบางประการ อาจมีการเปลี่ยนแปลง  ดังนั้นแล้ว จึงควรที่จะตรวจสอบดูว่าวัสดุที่จะนำมาใช้รีไซเคิลนั้น เหมาะสมกับการใช้งานที่ต้องการหรือไม่